หลักสูตรเพื่อประกาศนียบัตรฯ เวชศาสตร์ครอบครัวการบริบาลแบบประคับประคอง และ หลักสูตรอนุสาขาเวชศาสตร์ประคับประคอง
 
                    ตารางเปรียบเทียบหลักสูตรการฝึกอบรมเพื่อประกาศนียบัตรฯ เวชศาสตร์ครอบครัวการบริบาลแบบประคับประคอง และหลักสูตรการฝึกอบรมเพื่อวุฒิบัตรฯ อนุสาขาเวชศาสตร์ประคับประคอง
| คุณลักษณะ | หลักสูตรประกาศนียบัตรฯ | หลักสูตรอนุสาขาฯ | 
| ระยะเวลาการฝึกอบรม | เต็มเวลา ๑ ปี | เต็มเวลา ๒ ปี | 
| คุณสมบัติผู้สมัครเข้ารับการฝึกอบรม | -ได้รับวุฒิบัตรหรือหนังสืออนุมัติฯa -สำเร็จการฝึกอบรมแพทย์เฉพาะทางมาแล้วไม่น้อยกว่า ๒ ปี หรือไม่มีพันธะการชดใช้ทุนกับต้นสังกัด | -ได้รับวุฒิบัตรหรือหนังสืออนุมัติฯa -กรณีมีต้นสังกัดต้องปฏิบัติงานหลังสำเร็จการอบรมไม่น้อยกว่า ๑ ปี หรือไม่มีพันธะการชดใช้ทุนกับต้นสังกัด | 
| ระบบการรับสมัคร | สมัครผ่านทางราชวิทยาลัยฯb | สมัครผ่านทางระบบของแพทยสภาb | 
| ระยะเวลาการรับสมัครรอบแรก | ส่งเอกสารการสมัครภายในเดือนธันวาคมของทุกปีb | ส่งเอกสารการสมัครผ่านระบบแพทยสภาในเดือนตุลาคมของทุกปีb | 
| เนื้อหาการฝึกอบรม | เน้นการฝึกอบรมเพื่อเพิ่มความรู้ความชำนาญในการดูแลผู้ป่วยประคับประคองในกลุ่มที่มีความซับซ้อนกว่าศักยภาพของแพทย์ทั่วไป เนื้อหาหลักครอบคลุมกลุ่มผู้ป่วยมะเร็ง และผู้สูงอายุ การดูแลในชุมชน เช่น การเยี่ยมบ้าน | เน้นการฝึกอบรมเพื่อสร้างผู้เชี่ยวชาญในการดูแลผู้ป่วยประคับประคองในกลุ่มที่มีความซับซ้อน มีศักยภาพด้านการทำการวิจัย และการพัฒนาคุณภาพบริการ เนื้อหาที่ เพิ่มเติมจากหลักสูตรประกาศนียบัตรฯ ได้แก่ การดูแลโรคอื่นที่ไม่ใช่มะเร็ง ผู้ป่วยเด็ก การรับปรึกษาในห้องฉุกเฉิน และผู้ป่วยวิกฤต | 
| กิจกรรมการฝึกอบรม | -IPD consultation -Palliative care ward -Mandatory rotation (Oncology, Radiation oncology, Pain, Psychiatry, Geriatrics) -Elective | -IPD consultation -Palliative care ward -ER consultation -Mandatory rotation (Oncology, Radiation oncology, Pain, Psychiatry, Geriatrics, Rehabilitation) -Palliative care in specific population (e.g. Non-CA, Pediatrics, Critical care) -Elective | 
| เงื่อนไขการสำเร็จการฝึกอบรม | -ฝึกอบรมครบตามเวลาขั้นต่ำที่กำหนด -ผ่านการประเมิน EPA และการประเมินอื่น ๆ ตามที่สถาบันกำหนด -ส่งรายงานผู้ป่วยจำนวน ๒ ราย -ผ่านการสอบข้อเขียนและปฏิบัติ | -ฝึกอบรมครบตามเวลาขั้นต่ำที่กำหนด -ผ่านการประเมิน EPA และการประเมินอื่น ๆ ตามที่สถาบันกำหนด -ส่งรายงานผู้ป่วยจำนวน ๒ ราย -ส่งรายงานงานวิจัย ๑ ฉบับ -ส่งรายงานโครงการพัฒนาคุณภาพบริการ ๑ ชิ้น -ผ่านการสอบข้อเขียนและปฏิบัติ | 
| หลักสูตรฯ ดังกล่าวเหมาะกับใคร | แพทย์ที่ได้รับวุฒิบัตรหรือหนังสืออนุมัติฯ ในสาขาหลัก และต้องการเรียนเพิ่มเติมเพื่อให้มีทักษะในการดูแลผู้ป่วยแบบประคับประคองเพิ่มขึ้น หรือมีข้อจำกัดที่ไม่สามารถเรียนได้เต็มเวลา ๒ ปี ความรู้และทักษะที่ได้เพียงพอในการใช้ดูแลผู้ป่วยใน Primary และ Secondary care | แพทย์ที่ได้รับวุฒิบัตรหรือหนังสืออนุมัติฯ ในสาขาหลัก และต้องการฝึกอบรมเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านการดูแลแบบประคับประคอง สามารถให้การปรึกษาแพทย์เฉพาะทางสาขาอื่นด้านการดูแลแบบประคับประคอง รับผิดชอบงานบริการด้านการดูแลแบบประคับประคองของหน่วยงาน และมีทักษะด้านการทำวิจัยในสาขา | 
| เงื่อนไขอื่น ๆ ของหลักสูตรฯ | -ต้องมีการต่ออายุประกาศนียบัตรฯ ทุก ๕ ปี โดยเก็บ CME palliative ๕๐ หน่วย ตามประกาศราชวิทยาลัยฯ -ประกาศนียบัตรฯ สามารถนำไปสมัครประเมินเพื่อหนังสืออนุมัติฯ เฉพาะใน ๕ ปีแรก หลังเปิดการฝึกอบรมอนุสาขาฯ -ผู้ผ่านการฝึกอบรมไม่สามารถนำไปอวดอ้างว่า มีความรู้ความชำนาญ หรือเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ (ไม่ใช่หนังสืออนุมัติหรือวุฒิบัตรฯ) | –เฉพาะในช่วง ๕ ปีแรกที่เริ่มการฝึกอบรมหลักสูตรอนุสาขาฯ จะสามารถขอหนังสืออนุมัติฯ อนุสาขาเวชศาสตร์ประคับประคองได้ตามเงื่อนไขและวิธีการในประกาศของราชวิทยาลัยฯ | 
| ข้อมูลเพิ่มเติม | https://thaifammed.org/afs/cate-01/ | https://thaifammed.org/afs/cate-06/ | 
- ในสาขาดังต่อไปนี้ สาขาเวชศาสตร์ครอบครัว สาขาจิตเวชศาสตร์ สาขารังสีรักษาและมะเร็งวิทยา สาขาอายุรศาสตร์และอนุสาข สาขาวิสัญญีวิทยา สาขาสูตินรีเวชวิทยา สาขาศัลยศาสตร์ สาขากุมารเวชศาสตร์ สาขาศัลยศาสตร์ออร์โธปิดิคส์ สาขาเวชศาสตร์ฟื้นฟู สาขาอายุรศาสตร์โรคเลือด สาขาเวชศาสตร์ฉุกเฉิน สาขาจักษุวิทยา และสาขาโสต ศอ นาสิก
- ให้อิงตามประกาศราชวิทยาลัยฯ เรื่องการรับสมัครแพทย์ของทั้งสองหลักสูตรในแต่ละปีการฝึกอบรม
 
            
            






